จำนวนผู้เข้าชม: 747 วันที่ 07/04/2017
อาชีวะ ร่วมปตท. เปิด 59 ศูนย์ จูน อัพเครื่องยนต์ประหยัดพลังงาน
อาชีวะ ร่วมปตท. เปิด 59 ศูนย์ จูน อัพเครื่องยนต์ประหยัดพลังงาน
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ร่วมกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดโครงการพีทีที เอนจิ้น จูน อัพ 2560 (PTT Engine Tune Up 2017) มาตรการประหยัดพลังงานเพื่อประชาชนประจำปี 2560 ให้บริการตรวจเช็คสภาพรถยนต์ 25 รายการ เริ่มแล้ววันนี้ 3 -10 เมษายน 2560 ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. ไม่คิดค่าแรง ณ ศูนย์จูนอัพ สถานีบริการน้ำมัน ปตท. บนถนนสายหลัก 59 ศูนย์ทั่วประเทศ เตรียมพร้อมรองรับการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์
นายวณิชย์ อ่วมศรี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวว่า โครงการพีทีที เอนจิ้น จูน อัพ 2560 (PTT Engine Tune Up 2017) มาตรการประหยัดพลังงานเพื่อประชาชนประจำปี 2560 เพื่อสนองนโยบายรัฐในการรณรงค์สร้างจิตสำนึก ให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการประหยัดพลังงาน เพิ่มความปลอดภัย ลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ตลอดจน เป็นการฝึกทักษะความชำนาญ และสร้างจิตอาสาให้นักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษา นำความรู้วิชาชีพไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม ตั้งเป้าบริการได้ไม่น้อยกว่า 135,000 คันโดย สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ได้จัดส่ง 59 ทีม ประกอบด้วยครู นักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษา รวม 354 คน ประจำสถานีบริหารน้ำมัน ปตท. สถานีละ 1 ทีม พร้อมด้วยอุปกรณ์ด้านช่างยนต์ ออกให้บริการตรวจสภาพรถยนต์แก่ประชาชน 25 รายการ ณ สถานีบริการน้ำมันของ ปตท. จำนวน 59 แห่ง ในพื้นที่ 35 จังหวัด นอกจากนี้ยังสามารถรับบริการเพิ่มเติมตรวจเช็คสภาพมาตรฐานความปลอดภัย 15 ขั้นตอนโดยช่างของศูนย์ได้ที่ศูนย์บริการ โปรเช็ค (ProCheck) จำนวน 57 แห่ง และตรวจเช็คเครื่องยนต์ จำนวน 24 รายการโดยช่างของศูนย์ได้ที่ ฟิต ออโต้ (Fit Auto) จำนวน 26 แห่ง สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักความร่วมมือ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา โทร. 0 2281 5555 ต่อ 1394 หรือดูรายละเอียดได้ที่ www.vec.go.th, www.pttplc.com, PTT Contact Center 1365 โครงการพีทีที เอนจิ้น จูน อัพ (PTT Engine Tune Up) เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาและบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เริ่มต้นเมื่อปี พ.ศ. 2547 เป็นโครงการที่ทีมครูนักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษาออกให้บริการตรวจสภาพรถยนต์ฟรีแก่ประชาชน โดยใช้ช่วงเวลาว่างจากการปิดภาพเรียนให้เกิดประโยชน์แก่สังคมและจากสถานการณ์ราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานจึงได้ประกาศมาตรการประหยัดพลังงานเพื่อประชาชน เพื่อรณรงค์สร้างจิตสำนึกในเรื่องของการประหยัดพลังงานทั้งในเรื่องของไฟฟ้าและน้ำมัน และช่วยลดผลกระทบจากสภาวะโลกร้อน ซึ่งโครงการฯ นี้ถือเป็นหนึ่งในมาตรการประหยัดพลังงานทางด้านสังคมแสดงความรับผิดชอบต่อประชาชนคนไทยที่ใช้รถยนต์ทุกคน ให้ตระหนักถึงการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยลดอุบัติเหตุจาการขับขี่ ตลอดจนช่วยในเรื่องของปัญหามลภาวะทางอากาศ
ในปี พ.ศ. 2559 ที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-31 ธันวาคม 2559 มีประชาชนนำรถยนต์ ผ่านการตรวจสภาพเป็นประจำทุก 6 เดือน จำนวน 120,230 คัน สามารถลดการใช้น้ำมันได้ถึงร้อยละ 5 โดยคำนวณจากแต่ละคันใช้น้ำมันเฉลี่ยวันละ 4 ลิตร ประหยัดปีละกว่า 8.7 ล้านลิตร คิดเป็นการประหยัดเงินตราต่างประเทศมากกว่า 208 ล้านบาท (ประมาณการราคาน้ำมันลิตรละ 23.80 บาท) นอกจากนั้น โครงการนี้จะช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้ถึง18,957,866.40 23 ล้านกิโลกรัม/ปี หรือ 18,957 ตัน/ปี (ประหยัดน้ำมัน 1 ลิตร สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ ได้ 2.16 กิโลกรัม) โดยมีการให้บริการตรวจสภาพรถยนต์เพื่อประหยัดพลังงาน ผ่านศูนย์อาชีวศึกษา-พีทีที เอนจิ้น จูน อัพ (PTT Engine Tune Up 2016) เมื่อวันที่ 28 มีนาคม-6 เมษายน 2559 จำนวนทั้งสิ้น 8,277 คัน ผ่านศูนย์บริการโปรเช็ค (ProCheck) จำนวน 86 แห่ง และ ฟิต ออโต้ (Fit Auto) จำนวน 14 แห่ง จำนวน 111,953 คัน