จำนวนผู้เข้าชม: 603 วันที่ 29/08/2016
อาชีวะจับมือ เอ.พี. ฮอนด้า ร่วมรณรงค์ปฏิวัติความคิดใหม่ ให้คนไทยใส่หมวกกันน็อก
อาชีวะจับมือ เอ.พี. ฮอนด้า ร่วมรณรงค์ปฏิวัติความคิดใหม่ ให้คนไทยใส่หมวกกันน็อก
ดร.ชาญเวช บุญประเดิม รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา นายอารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด นายสุปกิต โพธิ์ปภาพันธ์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและนายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช ประธานชมรมคนห่วงหัว เป็นประธานร่วมการเปิดตัวโครงการ “สังคมหัวแข็ง” ปฏิวัติความคิดใหม่ คนไทยใส่หมวก ซึ่งจัดโดยเอ.พี. ฮอนด้า ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย ณ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ
รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ร่วมสนับสนุนและเป็นส่วนหนึ่งของโครงการสังคมหัวแข็ง เพื่อรณรงค์ให้คนไทยสวมหมวกกันน็อกเป็นนิสัย ซึ่งจะเป็นผลดีต่อสังคมไทยอย่างมาก หลายปีที่ผ่านมา สอศ. หรือหน่วยงานต่าง ๆ ในกระทรวงศึกษาธิการต่างก็มีความกังวลใจเกี่ยวกับปัญหาเรื่องอุบัติเหตุทางถนนที่เกิดขึ้นกับเยาวชนไทย ในแต่ละปีพบความสูญเสียคนรุ่นใหม่ ที่กำลังเติบโตไปเป็นบุคลากรที่สำคัญของประเทศไปเป็นจำนวนมาก หลายฝ่าย จึงต้องร่วมกันทำหลายสิ่งหลายอย่าง โดยเฉพาะการรณรงค์ลดอุบัติเหตุ
รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่ายังมีปัจจัยหลาย อย่างที่ทำให้อุบัติเหตุยังคงสูงอยู่ สิ่งที่สามารถทำได้ง่ายและใกล้ตัวที่สุดก็คือการปกป้องตนเองจากอุบัติเหตุเหล่านั้น ซึ่งในปัจจุบันมีเยาวชนเป็นจำนวนมากใช้รถจักรยานยนต์ในการเดินทางแต่ยังละเลยและไม่ให้ความสำคัญกับการใส่หมวกกันน็อก จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะร่วมกันปลูกจิตสำนึกและเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ โครงการ “สังคมหัวแข็ง” อาจเป็นบรรทัดฐานใหม่ของการณรงค์ เพราะไม่ได้เพียงแค่การประชาสัมพันธ์แต่ยังมีการร่วมมือเพื่อให้เกิดการปฏิบัติจริงอีกด้วย ซึ่งตรงนี้ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก และ สอศ.เองพร้อมให้การสนับสนุนอย่างที่สุดเพื่อประโยชน์ของเยาวชนไทยของเรา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสักวันหนึ่งเมืองไทยจะมีแต่คนใส่หมวกกันน็อกขี่รถจักรยานยนต์เป็นนิสัย
ด้านนายอารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า เอ.พี ฮอนด้า มีความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนเมืองไทยสู่เส้นทางของความปลอดภัย โดยในปีนี้ ได้สร้างสรรค์โครงการ “สังคมหัวแข็ง” โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อปลูกจิตสำนัก และเปลี่ยนพฤติกรรมให้คนไทยใส่หมวกกันน็อกจนเป็นนิสัย ทั้งมุ่งประสานความร่วมมือกับภาคีต่าง ๆ สร้างความเป็นต้นแบบจากแต่ละเครือข่าย ต่อยอดขยายให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรมต่อสังคมไทยในวงกว้างต่อไป โดยจะเน้นไปที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใช้รถมอเตอร์ไซค์ในชีวิตประจำวัน โดยในช่วงแรกของโครงการ ได้ร่วมกับกลุ่มบริษัทฮอนด้าในประเทศไทยรวม 12 บริษัท และร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า กว่า 1,200 สาขาทั่วประเทศ สร้างสังคมหัวแข็งต้นแบบ โดยมีพนักงานรวมกว่า 35,000 คน เป็นตัวอย่างคนไทยใส่หมวกกันน็อกทุกครั้งเมื่อใช้รถจักรยานยนต์ และจะขยายแนวคิดนี้ไปยังสถานศึกษา สถานที่ราชการ และชุมชนต่าง ๆ ทุกจังหวัด